สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสแนะนำผู้ปรารถนาพุทธภูมิ เมื่อ ๒๓ มีค. ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ว่า... สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมที่ปรารถนาพุทธภูมิ อาจมีหลายท่านที่บางครั้งตั้งใจทำความดี แต่มีสิ่งมากระทบบั่นทอนกำลังใจ ทำให้จิตใจเศร้าหมอง เกิดโทสะ ขอเปรียบเทียบเพื่อให้กำลังใจแก่ทุกท่านดังนี้ ธรรมดาเพชรนั้นเป็นของสูงค่า ส่องแสงเป็นประกายสวยงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าตกไปอยู่ในโคลนตมแห่งใด ก็ยังเปล่งประกายอยู่เสมอ เพชร กับ พลอย จึงมีค่าต่างกัน ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิจึงง่ายต่อการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็น เพชร หรือเป็น พลอย .... เมื่อผงเข้าตาเราเอง (ผงเปรียบเสมือนกิเลส..ความเศร้าหมอง ปัญหา อุปสรรค) เรายังไม่สามารถเขี่ยออกจากตาได้ ก็เท่ากับว่าเรายังปฏิบัติตนเข้าไม่ถึงธรรมะของพระพุทธเจ้า แล้วเราจะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร ดังนั้นผู้ที่เป็นพุทธภูมิจะต้องศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ให้แจ่มแจ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ บารมี ๑๐ ขอให้พิจารณาให้มากๆ ว่ามีอะไรบ้าง และเรายังขาดข้อไหน ก็ให้เร่งปฏิบัติ ให้แจ่มใส
และถ้าใครอ่านแล้วเห็นประโยชน์นำไปปฏิบัติแล้วเกิดความก้าวหน้าขอให้เล่าให้กันฟังบ้าง ขออนุโมทนา....
และถ้าใครอ่านแล้วเห็นประโยชน์นำไปปฏิบัติแล้วเกิดความก้าวหน้าขอให้เล่าให้กันฟังบ้าง ขออนุโมทนา....
--------------------------------
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมใหม่ล่าสุด
"การแก้ปัญหาในกลุ่มปฏิบัติธรรมให้แก้เฉพาะจุด"
สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสสอนเรื่อง "ความสามัคคีในคณะปฏิบัติธรรม และการวางอารมณ์ในการทำกิจกรรมทางศาสนา"
คงจะเคยมีคณะปฏิบัติธรรมหลายคณะที่มีปัญหาเกี่ยวกับความเข้าอกเข้าใจกัน....ความรักใคร่ สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในคณะ .... ไม่อยากให้ต้องผิดใจกัน... อยากให้คณะเรารักกัน ...จนดิฉันเองก็เคยคิดน้อยใจอยากลาออกจากคณะ .....เพราะเบื่อที่ต้องเจอแต่ปัญหาซ้ำซาก... และข้อคับข้องใจนี้ได้เคยนั่งกรรมฐานถาม สมเด็จองค์ปฐม...ท่านตรัสตอบว่า
"....อย่ามาถามพ่อเลย ...... ทุกอย่างให้ถามที่ใจของพวกเจ้าแต่ละคนว่า... วางอารมณ์ถึงพร้อมที่จะทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนารึยัง ...? การที่เรารวมตัวกันเป็นคณะปฏิบัติธรรม ขอให้คิดว่า ประธานคณะ คือ พระพุทธเจ้า ...และเราร่วมใจกันปฏิบัติกิจกรรมทางพุทธศาสนา เป็นการทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา ...ถ้าทุกคนคิดได้อย่างนี้ จิตก็จะสงบ.... อิ่มเอม ... มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมทางศาสนาเพื่อส่วนรวม... เวลาเกิดปัญหาในกลุ่มปฏิบัติธรรม ขอให้แก้เฉพาะจุดของปัญหานั้น เปรียบคณะปฏิบัติธรรมเหมือนท่อน้ำประปาขนาดใหญ่ที่ส่งน้ำไปตามบ้านเรือน...ชาวบ้านย่อมได้รับประโยชน์อย่างสูงจากน้ำประปาที่บริสุทธิ์...ใสสะอาด...อาจมีบางจุดที่ท่อรั่ว น้ำไหลซึม ...เราก็ควรจะแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่น้ำรั่ว...อย่าเอาขวานมาทุบตีท่อใหญ่ให้แตกเสียหายเลย...จะพลอยทำให้เสียผลประโยชน์กันหมด"
หลังจากที่ออกจากกรรมฐานในวันนั้น ดิฉันมีความสุขมาก จิตเบาสบาย และก็คิดว่าเราเป็นหนึ่งในลูกของพระพุทธองค์.. เราก็ควรจะอยู่ในคณะเพื่อทำความดีต่อไป....จึงอยากแบ่งปันคำสอนของพระพุทธองค์แก่ทุกท่านที่เคยมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเช่นดิฉัน... ขอนุโมทนาค่ะ
... มะลิแก้ว ...
"....อย่ามาถามพ่อเลย ...... ทุกอย่างให้ถามที่ใจของพวกเจ้าแต่ละคนว่า... วางอารมณ์ถึงพร้อมที่จะทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนารึยัง ...? การที่เรารวมตัวกันเป็นคณะปฏิบัติธรรม ขอให้คิดว่า ประธานคณะ คือ พระพุทธเจ้า ...และเราร่วมใจกันปฏิบัติกิจกรรมทางพุทธศาสนา เป็นการทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา ...ถ้าทุกคนคิดได้อย่างนี้ จิตก็จะสงบ.... อิ่มเอม ... มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมทางศาสนาเพื่อส่วนรวม... เวลาเกิดปัญหาในกลุ่มปฏิบัติธรรม ขอให้แก้เฉพาะจุดของปัญหานั้น เปรียบคณะปฏิบัติธรรมเหมือนท่อน้ำประปาขนาดใหญ่ที่ส่งน้ำไปตามบ้านเรือน...ชาวบ้านย่อมได้รับประโยชน์อย่างสูงจากน้ำประปาที่บริสุทธิ์...ใสสะอาด...อาจมีบางจุดที่ท่อรั่ว น้ำไหลซึม ...เราก็ควรจะแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่น้ำรั่ว...อย่าเอาขวานมาทุบตีท่อใหญ่ให้แตกเสียหายเลย...จะพลอยทำให้เสียผลประโยชน์กันหมด"
หลังจากที่ออกจากกรรมฐานในวันนั้น ดิฉันมีความสุขมาก จิตเบาสบาย และก็คิดว่าเราเป็นหนึ่งในลูกของพระพุทธองค์.. เราก็ควรจะอยู่ในคณะเพื่อทำความดีต่อไป....จึงอยากแบ่งปันคำสอนของพระพุทธองค์แก่ทุกท่านที่เคยมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเช่นดิฉัน... ขอนุโมทนาค่ะ
... มะลิแก้ว ...
(เนื้อหาข้างต้น ไม่ใช่ของทางวัดท่าซุง แต่ท่านมาสงเคราะห์ในมโนมยิทธิ เห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาเผยแพร่ ท่านไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับทางวัด เพราะเป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล คือเป็นสมเด็จองค์ปฐมที่เราพบเองที่บ้าน ซึ่งอาจจริงหรืออุปทานส่วนตัวก็ได้ ท่านจะเชื่อหรือไม่จงใช้ปัญญาพิจารณาเนื้อเสียก่อน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น