วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สมเด็จทรงเตือนคณะปฏิบัติธรรม

           
 
 
สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสแนะนำผู้ปรารถนาพุทธภูมิ  เมื่อ ๒๓ มีค. ๒๕๕๑  เวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ว่า...     สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมที่ปรารถนาพุทธภูมิ  อาจมีหลายท่านที่บางครั้งตั้งใจทำความดี  แต่มีสิ่งมากระทบบั่นทอนกำลังใจ  ทำให้จิตใจเศร้าหมอง  เกิดโทสะ  ขอเปรียบเทียบเพื่อให้กำลังใจแก่ทุกท่านดังนี้  ธรรมดาเพชรนั้นเป็นของสูงค่า  ส่องแสงเป็นประกายสวยงามตามธรรมชาติ  ไม่ว่าตกไปอยู่ในโคลนตมแห่งใด  ก็ยังเปล่งประกายอยู่เสมอ เพชร กับ พลอย จึงมีค่าต่างกัน  ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิจึงง่ายต่อการพิสูจน์ว่าตัวเองเป็น เพชร หรือเป็น พลอย .... เมื่อผงเข้าตาเราเอง (ผงเปรียบเสมือนกิเลส..ความเศร้าหมอง  ปัญหา  อุปสรรค)  เรายังไม่สามารถเขี่ยออกจากตาได้  ก็เท่ากับว่าเรายังปฏิบัติตนเข้าไม่ถึงธรรมะของพระพุทธเจ้า  แล้วเราจะไปช่วยคนอื่นได้อย่างไร  ดังนั้นผู้ที่เป็นพุทธภูมิจะต้องศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์ให้แจ่มแจ้ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ บารมี ๑๐   ขอให้พิจารณาให้มากๆ ว่ามีอะไรบ้าง  และเรายังขาดข้อไหน  ก็ให้เร่งปฏิบัติ  ให้แจ่มใส 

     และถ้าใครอ่านแล้วเห็นประโยชน์นำไปปฏิบัติแล้วเกิดความก้าวหน้าขอให้เล่าให้กันฟังบ้าง  ขออนุโมทนา
.... 
      
 --------------------------------
 
 
คำสอนสมเด็จองค์ปฐมใหม่ล่าสุด
 
"การแก้ปัญหาในกลุ่มปฏิบัติธรรมให้แก้เฉพาะจุด"
 
   
สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสสอนเรื่อง "ความสามัคคีในคณะปฏิบัติธรรม และการวางอารมณ์ในการทำกิจกรรมทางศาสนา"
 
    คงจะเคยมีคณะปฏิบัติธรรมหลายคณะที่มีปัญหาเกี่ยวกับความเข้าอกเข้าใจกัน....ความรักใคร่ สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในคณะ .... ไม่อยากให้ต้องผิดใจกัน... อยากให้คณะเรารักกัน ...จนดิฉันเองก็เคยคิดน้อยใจอยากลาออกจากคณะ  .....เพราะเบื่อที่ต้องเจอแต่ปัญหาซ้ำซาก...    และข้อคับข้องใจนี้ได้เคยนั่งกรรมฐานถาม สมเด็จองค์ปฐม...ท่านตรัสตอบว่า

    "....อย่ามาถามพ่อเลย ...... ทุกอย่างให้ถามที่ใจของพวกเจ้าแต่ละคนว่า... วางอารมณ์ถึงพร้อมที่จะทำความดีเพื่อพระพุทธศาสนารึยัง ...?  การที่เรารวมตัวกันเป็นคณะปฏิบัติธรรม ขอให้คิดว่า ประธานคณะ คือ พระพุทธเจ้า ...และเราร่วมใจกันปฏิบัติกิจกรรมทางพุทธศาสนา  เป็นการทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา ...ถ้าทุกคนคิดได้อย่างนี้ จิตก็จะสงบ....   อิ่มเอม  ... มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำกิจกรรมทางศาสนาเพื่อส่วนรวม... เวลาเกิดปัญหาในกลุ่มปฏิบัติธรรม  ขอให้แก้เฉพาะจุดของปัญหานั้น   เปรียบคณะปฏิบัติธรรมเหมือนท่อน้ำประปาขนาดใหญ่ที่ส่งน้ำไปตามบ้านเรือน...ชาวบ้านย่อมได้รับประโยชน์อย่างสูงจากน้ำประปาที่บริสุทธิ์...ใสสะอาด...อาจมีบางจุดที่ท่อรั่ว น้ำไหลซึม ...เราก็ควรจะแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่น้ำรั่ว...อย่าเอาขวานมาทุบตีท่อใหญ่ให้แตกเสียหายเลย...จะพลอยทำให้เสียผลประโยชน์กันหมด"

      หลังจากที่ออกจากกรรมฐานในวันนั้น ดิฉันมีความสุขมาก  จิตเบาสบาย และก็คิดว่าเราเป็นหนึ่งในลูกของพระพุทธองค์.. เราก็ควรจะอยู่ในคณะเพื่อทำความดีต่อไป....จึงอยากแบ่งปันคำสอนของพระพุทธองค์แก่ทุกท่านที่เคยมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเช่นดิฉัน...
ขอนุโมทนาค่ะ 

          ... มะลิแก้ว ... 
 
 
(เนื้อหาข้างต้น ไม่ใช่ของทางวัดท่าซุง แต่ท่านมาสงเคราะห์ในมโนมยิทธิ เห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาเผยแพร่ ท่านไม่ควรเอาไปเปรียบเทียบกับทางวัด เพราะเป็นเรื่องเฉพาะส่วนบุคคล คือเป็นสมเด็จองค์ปฐมที่เราพบเองที่บ้าน ซึ่งอาจจริงหรืออุปทานส่วนตัวก็ได้ ท่านจะเชื่อหรือไม่จงใช้ปัญญาพิจารณาเนื้อเสียก่อน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น