วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เมื่อโลกถึงกาลวิสัญญี

เมื่อโลกถึงกาลวิสัญญี
           โลกของเรา ณ พุทธศักราช 2553 ซึ่งเลยกึ่งพุทธกาลมาแล้วเป็นเวลา 53 ปีเริ่มเดินทางเข้าสู่การนับถอยหลังของการ “เสื่อม” ซึ่งเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ “กฎแห่งกรรม” จะมีมนุษย์สักกี่คนที่ระลึกนึกถึงความเสื่อมไปของโลกและจิตวิญญาณของมนุษย์เอง เราเหลือเวลาอีกกันคนละสักกี่ปี กี่ชาติที่จะข้ามพ้นจากความทุกข์ในวัฏสงสาร เรายังประมาทในการดำรงชีวิตอยู่ทุกๆวัน เราเสพเทคโนโลยี วัตถุนิยมที่สนองความต้องการของตัวเอง โดยลืมรากเหง้าแห่งจิตวิญญาณที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งสอน แสงธรรมแห่งพุทธองค์กำลังเริ่มริบหรี่ลง แต่แสงไฟแห่งกิเลสตัณหากำลังรุกโชนอยู่ในตัวตนของคนยุคนี้ มนต์มายาหลอกล่อให้เราหลงติดอยู่ในความสุขทางวัตถุ “กิน กาม เกียรติ” เราเหมือนกับแมลงเมาบินเข้ากองไฟหรืออาจจะกล่าวว่ากองเพลิงแห่งกิเลสก็คงไม่ผิดนัก
            อายุพระพุทธศาสนาแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมบรมครูมีอายุยืนยาว 5000 ปี หลังกึ่งพุทธกาล 2500 ปีไปแล้วอีก 500 ปี เหล่าเทวดา เทพ พรหมทั้งหลายจะขอดูแลสืบต่อพระพุทธศาสนาจนถึงกาลพุทธศักราช 3000 ปี ต่อจากนั้นไปเหล่ามารและสัตว์นรกทั้งหลายก็จะขอดูแลพระพุทธศาสนาต่อจนครบ 5000 ปี
            เพราะฉะนั้นเหลือเวลาอีก 447 ปี เราจะเข้าสู่พุทธศักราช 3000 หากชีวิตมนุษย์ยืนยาวเฉลี่ย 100 ปี นั้นหมายถึงเราเหลือเวลาอีก “สี่ชั่วอายุคน” เท่านั้นที่จะสร้างกุศลและมีชีวิตอยู่อย่างปกติ หากจะว่าไปแล้ว นับตั้งแต่กึ่งพุทธกาลเป็นต้นไป ชีวิตมนุษย์จะเริ่มอยู่ด้วยความยากลำบากมากยิ่งขึ้น นับวันเราจะพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกวันๆและรวมไปถึงความวิปริตของจิตใจมนุษย์ก็จะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คนดีค่อยๆ หนีหายเข้าสู่ป่า คนชั่วกลับกลายเดินอยู่ทั่วท้องถนน และยิ่งเข้าใกล้ พุทธศักราช 3000 ปี มนุษย์เราก็จะด้อยลง ต่ำลงเตี้ยลง ไม่รู้จักพระ ไม่รู้จักสงฆ์ เอาคนเป็นพระ เอาพระเป็นคนมั่วกามโลกีย์ พระก็ไม่ใช่พระ “คนก็ไม่ใช่คน” โลกในตอนนั้นจะเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ทั่วโลก แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วมโลก ทั้งโรคระบาด จนเกิดล้มตายเป็นอันมาก เหลือมนุษย์เพียงสามส่วนจากสิบส่วนเท่านั้น เทคโนโลยีสูญหายมนุษย์ต้องกลับไปใช้ชีวิตตามแบบบรรพกาลอย่างสมบูรณ์
         ดูก่อนผู้ปัญญาทั้งหลายเมื่อท่านอ่านมาได้ถึงตอนนี้ ท่านผู้ใดมีปัญญาก็จะเห็นภัยในความเสื่อมนี้ แต่หากจะว่าไปแล้ว อีกตั้งสี่ร้อยกว่าปีกาลนั้นถึงจะเกิดขึ้น เราตายแล้วเกิดอีกตั้ง 4 ชาติแน่ะ! ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะไป แต่ดูก่อน! ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่า ชาติหน้าท่านจะได้เกิดเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนาอีก ท่านจะไม่ไปตกนรกหรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานดอกหรือ? หากท่านไปเกิดยังเมืองนรกอีกนานเท่าไรเล่ากว่าท่านจะพ้น นรกขุมหนึ่งอายุมากโขพอดู คิดซะว่าถ้าตกนรกชาตินี้ก็คงไม่ทันศาสนาพระศรีอริยเมตไตรยเป็นแน่ หรือถ้าท่านเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วท่านต้องหลงเกิดหลงตายไม่รู้กี่รอบกว่าจะพ้นก็คงอาจจะไม่ทันศาสนาพระศรีอริยเมตไตรยอยู่ดี
            เขาถึงบอกว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ชาตินี้ท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา เขาให้โอกาสเรามาเกิดเป็นมนุษย์ทั้งที ก็ทำดีให้สมกับที่ได้เกิดมาไม่ดีกว่าหรือ ทำให้ยิ่งๆ ทำให้สุดทางจนพ้นทุกข์ อย่างน้อยๆ ได้สวรรค์สมบัติหรือพระโสดาบันก็ยังดี
             หากที่ได้เล่ามาแล้วท่านผู้ปัญญายังเห็นว่าก็ยังไกลตัวอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นลองอีกสักสิบปีข้างหน้าอันเป็นเวลาอีกไม่นานเกินรอซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของ “กลียุค” ประมาณปีพุทธศักราช 2560-2563  จะเกิดซึนามิภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่อีกครั้งแถบทะเลอันดามันซึ่งส่งผลกระทบมากมายกว่าซึนามิครั้งที่แล้ว ความสูงของคลื่นยักษ์ 6 เมตร จะถาโถมเข้ากวาดทุกสิ่งทุกอย่างหายไปในพริบตา อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่า ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ บูรไน ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ จะได้รับผลกระทบกับคลื่นยักษ์ในครั้งนี้ ซึ่งสัญญาณเตือน ณ ปัจจุบันว่าจะเกิดซึนามิในอีกประมาณสิบปีข้างหน้าคือ ภูเขาไฟในประเทศอินโดนีเซียที่กำลังประทุอยู่ในตอนนี้ บ่งบอกว่าภายใต้เปลือกโลกที่เต็มไปด้วยลาวากำลังหาทางระบายผุดขึ้นสู่พื้นผิวโลก เป็นการปรับสมดุลให้กับธรรมชาติที่มนุษย์ได้ทำลายระบบนิเวศของโลกให้เสื่อมลง ทำให้ภายใต้พื้นผิวโลกเองต้องมีการปรับสมดุลตัวเองเพื่อความอยู่รอดเช่นกัน แต่อีกไม่นานภูเขาไฟในอินโดนีเซียจะกลับสงบเงียบเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นการปิดเส้นทางที่จะระบายออกของลาวา ส่งผลให้ภายใต้พื้นผิวนั้นกลับปั่นป่วนเพิ่มแรงกดภายใต้พื้นผิวโลกส่งผลให้มีความรุนแรงมหาศาลพร้อมที่จะทำลายล้างมากยิ่งขึ้นไปอีก
     การปรับตัวอีกครั้งของลาวามันจะพยายามหาเส้นทางเพื่อจะระบายความร้อนระอุของลาวาออกมาให้ได้ตามรอยต่อของเปลือกโลกซึ่งทำให้เกิดการสั่นไหวของพื้นแผ่นดินด้วยแรงมหาศาลในบริเวณคาบมหาสมุทรอินเดีย เกิดคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่ชายฝั่งของแต่ละประเทศ ผู้คนละล้มตายเป็นจำนวนมาก
            ซึ่งความรุนแรงในแต่ละประเทศนั้นก็ยังไม่สามารถประเมินได้เช่นกันทั้งนี้ก็สืบเนื่องมาจาก “กฎของธรรมชาติ” ท่านผู้มีปัญญาอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น ซึ่งจะขออธิบายไว้อย่างนี้ว่า
            “ธรรมชาติคือธรรมะซึ่งอิงกับธรรมจักร ตราบใดที่มนุษย์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในกุศลผลบุญ ธรรมชาติก็จะช่วยบัดเป่าทุกภัยให้บรรเทาเบาบางลงตามกุศลกรรมของแต่ละคนแต่ละประเทศทำกันไว้ ธรรมะเหมือนของฟรีที่อยู่ในอากาศ ท่านผู้ใดมีปัญญาบารมีก็สามารถที่จะนำของฟรีจากธรรมชาติมาตีความให้ได้ข้อธรรมเกิดปัญญาเห็นภัยในวัฏสงสาร”
             ชะตากรรมของมนุษย์ยังไม่หมดแค่นั้นเมื่อเกิดซึนามิแล้ว ภัยที่ตามมาอีกอย่างคือการเกิดโรคระบาด  เกิดสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้เชื้อโรคกลายพันธุ์ดื้อยา และทางโลกของวิญญาณก็จะเกิดจากความไม่บริสุทธิ์ของกระแสโลกที่มนุษย์มีแต่อิจฉาริษยา ตัณหาราคะ จึงทำให้กระแสของจิตไม่บริสุทธิ์มีสิ่งเจือปน ทำให้เกิดเป็นเชื้อโรคใหม่ๆขึ้นมา เกิดโรคแปลกประหลาดที่ไม่สามารถรักษาได้ เชื้อโรคส่วนใหญ่กลายพันธุ์ทำให้ไม่สามารถผลิตยาออกมาทันกับความต้องการทำให้ผู้คนล้มตายลง และโรคในปัจจุบันที่มีอยู่เช่น โรคมะเร็ง โรคเอดส์ โรคเบาหวาน และโรคต่างๆ ก็จะรักษาได้ยากยิ่งขึ้นเกิดการดื้อยาซึ่งเป็นผลพวงมาจากสารเคมีที่มนุษย์ผลิตขึ้นมาใช้ในการเกษตร ฉีดพืชผัก ผลไม้ ใช้ในการเลี้ยงสัตว์เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์ทำให้พิษสะสมในเนื้อสัตว์ที่นำมากินเป็นอาหาร อีกทั้งอาหารที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมีตามโรงงานต่างๆ อาหารสังเคราะห์ทั้งหลาย เมื่อมนุษย์กินอาหารที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้เข้าไปพิษจากอาหารก็จะเข้าไปสะสมในร่างกายพร้อมทั้งมีปัจจัยตัวเร่งจากสภาพแวดล้อม อากาศที่ไม่บริสุทธิ์และจิตที่มีแต่กิเลสก็จะทำให้ร่างกายป่วย เซลล์ที่เคยดีก็จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง เกิดการดื้อยารักษายาก ผู้คนก็จะทยอยเกิดโรคและล้มตายในที่สุด
            นอกจากโรคระบาดแล้ว เมื่อเกิดซึนามิน้ำก็จะเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเกิดความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร เกิดขาดแคลนอาหาร ข้าวยากหมากแพง การหากินลำบากมากยิ่งขึ้นผู้คนอดอยากยากเข็ญ ประเทศที่พึ่งพิงกับประเทศเกษตรกรรมก็จะได้รับความเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือการเคลื่อนเข้าสู่กลียุคของแท้ในอีกไม่เกินสิบปีนี้
           ประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นประเทศอินเดีย ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้น ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่เป็นจุดรวมศาสนาสำคัญๆ หลายศาสนา ไม่ว่าจะเป็น พราหมณ์ ฮินดู พุทธ รวมถึงลัทธิใหม่ๆ อีกหลายลัทธิและชาวอินเดียส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้า คติความเชื่อของชาวอินเดียเชื่อว่า การฆ่าสัตว์บูชายันเพื่อขอพรต่อเทพเจ้านั้นจะได้บุญมากและจะได้พรตามคำขอ ฉะนั้นสัตว์จำนวนมากต้องมาสังเวยชีวิตด้วยการทำบุญของชาวอินเดีย เพราะผลกรรมที่ชาวอินเดียร่วมกันทำนั้นก็จะส่งผลให้ได้รับความทุกขเวทนาจากภัยธรรมชาติมากที่สุด เขาเห็นชีวิตสัตว์เพื่อนร่วมโลกเป็นผักปลาฆ่าได้ง่ายๆ เพื่อสนองความต้องการตามคติความเชื่อผิดๆ จึงทำให้เกิดกรรมเวรต่อกัน สร้างภพชาติไม่จบสิ้นและต้องมารอรับผลกรรมในเร็ววันนี้
          เพราะฉะนั้นหากประเทศใด ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งมั่นอยู่ในบุญกุศลไม่เอารัดเอาเปรียบกันอยู่ด้วยความรักและสามัคคีไม่เบียดเบียนกัน ภัยพิบัติที่จะรุนแรงก็จะลดน้อยเบาบางลง เพราะ “ธรรมชาติให้โอกาสมนุษย์เสมอ” แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่ามนุษย์จะให้โอกาสตัวเองหรือเปล่า?
             สำหรับประเทศไทยนั้นจะเกิดภัยพิบัติเป็นช่วงๆ เป็นระลอก ซึ่งเป็นการเตือนล่วงหน้าถ้าคนไทยตั้งมั่นอยู่ในบุญกุศลไม่ประมาทในการทำความดี ธรรมชาติก็ให้โอกาส พักยกให้ได้ตั้งตัวทำความดีกันต่อความเสียหายจะลดน้อยลง แต่อย่างไรแล้วเมื่อถึงเวลากรรมก็ต้องทำหน้าที่เช่นกัน หลังจากที่เกิดซึนามิทางภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันแล้ว ผลกระทบที่ไทยจะได้รับคือ ผู้คนล้มตายจำนวนหนึ่ง ชายหาดทั้งฝั่งทะเลอันดามันและฝั่งอ่าวไทยจะจมหายลงไปในทะเลบางส่วน ฝั่งอ่าวไทยน้ำจะเข้าท่วมจังหวัดสมุทรปราการบางส่วน กรุงเทพบางส่วน พื้นที่ที่ติดกับทางเดินของน้ำหรือทางผ่านของน้ำ อ่างเก็บน้ำ ที่ราบลุ่มจะเกิดน้ำท่วมสูงขึ้นมาประมาณ 2-3 เมตร เนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทางฝั่งทะเลอันดามันจะหนุนน้ำผ่านทางช่องแคบมะละกาทำให้กระแสน้ำหนุนสูงบริเวณอ่าวไทยเข้ามาทางจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพและพื้นที่ที่ติดกับทางเดินของน้ำเช่นจังหวัดที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดน้ำจะท่วมสูง บ้านเรือนสองฝั่งจะจมน้ำ พืชพรรณทางการเกษตรเสียหาย พืชพันธุ์ไม่สมบูรณ์เหมือนแต่ก่อนข้าวปลาอาหารจะหายากเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ผู้คนอดอยาก โจรผู้ร้ายชุกชุมความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่มี ถ้าจะถามหาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ก็หมดหวังเพราะถึงเวลานั้นไม่มีใครช่วยใครได้ เพราะปราบกันไม่ไหวโจรผู้ร้ายชุกชุม ความยุติธรรมก็ไม่ต้องพูดถึง ใครมีเงินก็คือผู้บริสุทธิ์ คนดีจะท้อแท้จนไม่ยินดียินร้ายที่จะรักษาความดีและกลายเป็นคนไม่ดีไปในที่สุด
       เมื่อถึงเวลานั้นผู้คนจะตระหนักถึงชีวิตและความปลอดภัยจะเที่ยวพากันเสาะแสวงหาพื้นที่อันปลอดภัยที่จะใช้ชีวิตอยู่ เมื่อรอดจากความตายมาได้แล้วก็ต้องมาต่อสู้ดิ้นรนในการทำมาหากินต้องเผชิญกับความทุกข์ที่ต้องอดอยากขาดแคลนอาหาร ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็ไม่มี ทุกข์จนต้องหันหน้าเข้าไปพึ่งพระพุทธศาสนา เอาธรรมะเข้ามาชโลมจิตใจให้หายจากความทุกข์โศก
            ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายเมื่อท่านอ่านมาได้ถึงเพียงนี้แล้ว ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า ท่านจะยังประมาทในชีวิตอยู่อีกหรือไม่? ถ้าหากเรื่องที่กล่าวมามันเกิดขึ้นจริงท่านจะทำอย่างไรกับวันนี้ของท่าน? ท่านจะทำอย่างไรกับอนาคตของท่านเล่า? 
        ที่พรรณนามาให้ท่านได้อ่านนี้ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ฝึกเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับอนาคตเพราะต่อไปนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกแล้ว ท่านจะไม่ได้อยู่อย่างสบายแบบนี้อีกแล้ว ความสะดวกสบาย ข้าวปลาอาหารแม้แต่ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็ไม่มีอะไรแน่นอน เพราะมันไม่มีอะไรจะให้ท่านยึดถืออีกต่อไป มีแต่บุญกุศลเท่านั้นที่จะพาท่านหลุดพ้นจากทุกข์และจะพาท่านไปอยู่ในประเทศอันสมควร
      พระศาสนาแห่งองค์สมเด็จพระสมณโคดมกำลังเดินทางกลับเข้าสู่จุดเริ่มต้นของศาสนาแห่งองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย เป็นช่วงรอยต่อที่ท่านจะต้องเดินทางข้ามผ่านไปให้ถึงศาสนาขององค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยให้ได้  ถ้าหากท่านข้ามไปไม่ทันแล้วท่านคงต้องรออีกนานแสนนานเลยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น